“ใจ” เราเปรียบดั่ง... ดอกบัวก่อนเกิดมาเป็น “ดอกบัว” ก็ยังไม่มีดอกบัวว่างเปล่า... ดั่ง “ใจ” ที่เป็น “ความไม่มีอะไร” กำเนิดมาเป็นดอกบัวตูมมีกลีบดอกห่อหุ้มเป็นชั้น ๆจากด้านนอกสู่ด้านใน... หุ้มความไม่มีอะไรจากดอกเล็ก... จนกลายเป็นดอกใหญ่ค่อย ๆ หนาแน่นขึ้นด้วยกลีบดอกแต่ละกลีบ... เปรียบกับ “สังขารปรุงแต่ง” เพราะมี “อวิชชา” จึงหลงว่ามีตัวตนยึดถือสังขาร เป็นตัวเรา ของเรายึดถือครอบครัว ทรัพย์สมบัติ ยศถาบรรดาศักดิ์อยากได้ อยากมี อยากเป็นอยู่กับโลก ก็ยึดโลก... มาปฏิบัติธรรม ก็ยึดธรรมความยึดห่อใจ จนคลี่ไม่ออกเหมือนดอกบัวตูม จนวันหนึ่งได้พบ... แสงแห่ง... “ธรรม”ความยึดถือที่ห่อหุ้มใจก็ค่อย ๆ สลายออกไป ดุจบัวบานสติปัญญา ดั่ง แสงธรรมค่อย ๆ คลี่กลีบดอกแห่งความยึดถือออกไปทีละกลีบ... ทีละกลีบ กลีบดอกแห่งร่างกาย...กลีบดอกแห่งอาการของใจ...กลีบดอกแห่งความรู้ ความเห็น ความเข้าใจคือกลีบดอกแห่ง... “ความยึดถือ”แม้แต่กลีบดอกแห่ง... ความพยายามไม่ยึดอะไร...หรือ “มีตัวเราไม่ยึดถือ”ล้วนเป็น “ความยึดถือ”... เป็น “อวิชชา” เมื่อกลีบดอกคลี่ออก บานออก จนหมดก็จะพบความจริงของใจที่อยู่ภายใน แกนกลางของดอกบัวคือ “ใจ”คือ “ความไม่มีอะไร... ไม่เป็นอะไร”ว่างเปล่า ไร้ตัวตนไม่ติดอะไรเลย ไม่ยึดอะไรเลยจบสมมติ เป็นของโลกก็ทิ้งให้โลกมาจาก “ความไม่มี” ก็กลับคืนสู่ “ความไม่มี” ดังเดิม “สังขาร” กับ “ใจ”อยู่ด้วยกัน... แต่ไม่ยึดกันสิ้นยึดถือ... คือ “วาง”พ้นทุกข์... ดั่งดอกบัวบานเป็น “พุทธะ”ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโยโอวาทธรรมจากวีดีโอ... “ธรรมะจากดอกบัว”https://youtu.be/EeIeZ41JL4c ~~~~~~~~~~~~~~~