ผู้ถาม : จากข้อความ “ตรงนี้อธิบายเรื่อง Set zero ได้ชัดเลยครับ ใจที่สงบ พ้นเจตนา สัจธรรมทั้งที่เป็นสังขาร และวิสังขารก็ปรากฏให้เห็น รวมถึงจิตอวิชชา” อ่านแล้วหนูติดอยู่นิดนึงเจ้าค่ะ ตรงที่เขียนว่า “รวมถึงจิตอวิชชา” แสดงว่าผู้เขียนแยก จิตอวิชชา ออกจาก สังขารและวิสังขาร ซึ่งหนูคิดว่าจิตอวิชชาก็รวมอยู่ในสังขารอยู่แล้วเจ้าค่ะ หนูอาจจะเข้าใจผิดหรือเปล่าเจ้าคะหลวงตา หลวงตา : เขาเข้าใจถูกแล้ว ในทางปฏิบัติ “จิตอวิชชา” แยกออกจากสังขาร และ วิสังขาร คือ ถ้ารู้เห็นสังขารเกิดดับในความไม่เกิดดับ (วิสังขาร) แต่ยึดมั่นถือมั่นว่า เราหรือตัวเราเป็นผู้รู้ ผู้รู้นี้จะเป็นจิตอวิชชา แต่ถ้าผู้รู้ไม่ปรากฏ คือ ไม่มีกิริยาหรืออาการใดเลย ผู้รู้นี้จะเป็น “พุทธะ” หรือ “จิตหรือใจบริสุทธิ์” จะไม่ยึดทั้งสังขาร และ วิสังขาร ผู้ถาม : แต่ผู้รู้เป็นสังขารไม่ใช่หรือเจ้าคะหลวงตา ผู้รู้ไม่ปรากฏ คือเป็น รู้ ที่ไม่มีเรารู้ ที่หลวงตามักสอนอยู่เสมอๆ จิตอวิชชาไม่ได้เป็นสังขารหรือเจ้าคะ หลวงตา : “จิตอวิชชา” เป็นสังขาร แต่ทางปฏิบัติจะหลงว่า “จิตอวิชชา” ไม่ใช่สังขาร คือจะแยกตัวเราผู้รู้ หรือ ผู้รู้เป็นตัวเราออกมารู้เห็นสังขารเกิดดับในความไม่เกิดดับ แต่ตัวเราผู้ตั้งรู้ ผู้พยายามรู้ ผู้เจตนารู้ ผู้จงใจรู้ ผู้ตั้งใจรู้ ไม่เกิดดับไปเหมือนสังขารอื่นๆ ผู้ถาม : กราบขอบพระคุณหลวงตาเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ ปุจฉาวิสัชชนาเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563