ผู้ถาม : กราบหลวงตาค่ะ กราบขอขมา ขอความเมตตาหลวงตา โยมขอสารภาพ ไม่สามารถพิจารณากายได้ต่อเนื่อง แต่ก็ยังพยายามอยู่เนือง ๆ มันกลับมาพิจารณาจิต (แจ้ง) ว่าธาตุรู้หรือจะเรียกอะไรก็ได้ค่ะ แค่รู้… จริง ๆ เป็นรู้ธรรมชาติของเขา จะแกล้งทำไม่ให้รู้ หรือแกล้งทำเป็นรู้ ก็ไม่ได้ มันจะเป็นสังขารทันที รู้นี้เขามีอยู่ตลอดเวลา แต่ก็หาตัวหรือจุด… ของเขาก็ไม่ได้ และเขาทำอะไร ๆ ไม่ได้เลย ยึดไว้ก็ไม่ได้ (เขาไม่มีตัวตนให้ยึดได้) ไม่ใช่ของเรา ของใคร ทุก ๆ ขณะจิตปัจจุบัน เขารู้เราตลอดเวลาไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน (ตีลังกา) ถ้าไม่หลงขาดสติ ธรรมชาติเขา.. รู้.. รู้ แม้แต่เราหลงขาดสติ เขาก็ยังรู้ว่าเราหลง แม้แต่เราพิจารณากาย เขาก็รู้ว่าเราพิจารณากายเพื่อ… ? พิจารณาได้หรือไม่ได้ หรือยึด-ไม่ยึด… มันก็รู้ กราบขอความเมตตาหลวงตาชี้แนะ สั่งสอน กราบขอบพระคุณอย่างสูงสุดค่ะ หลวงตา : พิจารณาเห็นว่าทั้งกาย และ จิต รวมทั้งผู้รู้ เป็นธรรมชาติที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ใช่เป็นตัวตนคงที่ ไม่ใช่เป็นเรา ตัวเรา ของเรา ไม่อาจยึดมั่นถือมั่นได้ ใจก็จะหายโง่ สิ้นหลงยึดมั่นถือมั่น (สิ้นอวิชชา ตัณหา อุปาทาน) ก็จะพ้นทุกข์ (นิพพาน) ปุจฉาวิสัชนาเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562