หลวงตาณรงศักดิ์ ขีณาลโย

ผู้ถาม : กราบนมัสการหลวงตาเจ้าค่ะ

โยมอ่านบทความของหลวงปู่ดุลย์เรื่อง “รูปนามของจักรวาล”
ฟังคลิป 220423A-6 จบที่ใจสงบร่มเย็น คลิป 220827A-1 นิพพานอยู่ที่ไหน ขออนุญาตถามเจ้าค่ะ

1.นามเดิม คือความว่างของจักรวาล นี่คือ รู้ที่เป็นพุทธะ หรือธาตุรู้ใช่ไหมเจ้าค่ะ

2.เมื่อรูปกับนามเดิมรวมกัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามกฏไตรลักษณ์ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดการกระทำ ทำกรรมดีและชั่ว จึงเกิดวิบากกรรมบันทึกไว้ที่จิตที่อาศัยอยู่ในวิญญาณขันธ์ที่เรียกว่า รูปวิญญาณในทวารทั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย เมื่อตายรูปวิญญาณนี้จะไปเวียนว่ายตายเกิด

ขอถามว่า รูปวิญญาณนี้คือ กายทิพย์ หรือกายจิตใช่ไหมเจ้าค่ะ ที่หลวงตาพพูดในคลิป “นิพพานอยู่ที่ไหน” แล้ววิญญาณในขันธ์ 5 หรือวิญญาณขันธ์มันตายไปกับขันธ์ 5

3.รูปวิญญาณคือกายจิต หรือ กายทิพย์นี้ คือ วิญญาณขันธ์ในขันธ์ 5 + จิต + อวิชชา มันคือความรู้สึกว่าเป็นเรา ใช่ไหมเจ้าค่ะ

ทีมงาน :

“นามเดิมก็คือความว่างของจักรวาลเข้าคู่กันเป็นเหตุเกิดตัวอวิชชา”
(อ้างอิงจากจิตคือพุทธะ องค์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)
นามเดิมนี้เป็นส่วนของสมมติ ไม่ใช่ธาตุรู้ที่เป็นพุทธะ ธาตุรู้ที่เป็นพุทธะพ้นไปจากรูปและนาม พ้นไปจากสมมติทั้งปวง

การมี ***เจตนา จงใจ ตั้งใจ พยายาม*** ในการคิด การพูด การกระทำ จะก่อให้เกิดเป็นมโนกรรม วจีกรรม และกายกรรม ซึ่งการกระทำ (กรรม) ทั้งหมดจะถูกบันทึกที่ดวงจิตวิญญาณ ซึ่งก็คือธาตุรู้ (วิญญาณธาตุ) ที่มีอวิชชา ไม่ใช่วิญญาณขันธ์ที่ทำหน้าที่รับรู้ทางทวารต่าง ๆ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ)
และกรรมนั้นจะส่งผลให้ต้องมารับผลเป็นวิบากกรรมต่อไป

“ดวงจิตวิญญาณ” นั้น เป็นเหมือนนิวเคลียสที่หมุนรอบตัวเอง ซึ่งเกิดขึ้นมาพร้อมความรู้สึกถึงความเป็นตัวตน (กู) เบ็ดเสร็จ และพร้อมจะปรุงรูปขึ้นมาที่เรียกว่า “กายทิพย์ (กายโปร่งแสง)” ตามสิ่งที่จิตยึดถือ ณ ขณะจิตนั้น เช่น ขณะจิตนั้นมีความโลภโมโทสัน อยาก ๆ ๆ มาก ก็ปรุงกายทิพย์เป็นรูปเปรตซ้อนอยู่ในกายหยาบที่เป็นคน เป็นต้น ซึ่งกายทิพย์ (กายโปร่งแสง) นี้ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเนื้อ
แต่สามารถเห็นได้จากตาในสำหรับผู้ที่มีอภิญญา

ดังนั้น กายทิพย์ (กายโปร่งแสง) จึงเกิดดับเปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งที่จิตยึดถือตลอดเวลา โดยอาศัยเชื้อที่เป็นอวิชชา-อาสวะ-อนุสัยที่รวมตัวกันเป็นจุดนิวเคลียสหมุน ๆ นั้นหล่อเลี้ยงไว้

มีเพียง “นิพพาน” คือ…
สิ้นหลงว่ามีตัวตนในธรรมชาติและสิ้นความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวงอย่างสิ้นเชิง จึงทำให้ดวงจิตวิญญาณที่เป็นนิวเคลียสหมุน ๆ นั้นหยุดหมุนลง เพราะสิ้นเชื้อคือ สิ้นอวิชชา-อาสวะ-อนุสัยแล้ว ดวงจิตวิญญาณที่คงรูปอยู่ได้ด้วยการหมุนรอบตัวเอง จึงสลายไปไม่สามารถคงรูปอยู่ได้

เมื่อหมดอายุขัยลงในชาตินี้ คือ…
ธาตุแตกคืนสู่ธาตุเดิมตามธรรมชาติ ขันธ์ห้าก็ดับลง จึงไม่เหลือดวงจิตวิญญาณออกจากร่างนี้อีก ภพชาติที่เวียนเกิดเวียนตายมายาวนานก็เป็นอันสิ้นสุดลง

ปุจฉาวิสัชชนาธรรมเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2565